โกสต์บัสเตอร์ส มหันตภัยเมืองเยือกแข็ง (Ghostbusters: Frozen Empire)

โกสต์บัสเตอร์ส มหันตภัยเมืองเยือกแข็ง (Ghostbusters: Frozen Empire) เป็นภาพยนตร์ตลกเหนือธรรมชาติสัญชาติอเมริกันปี 2024 กำกับโดยกิล คีนัน จากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับเจสัน ไรท์แมน เป็นภาคต่อของ Ghostbusters: Afterlife (2021) ภาคที่ 4 และภาคที่ 5 ของแฟรนไชส์ ​​Ghostbusters ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Paul Rudd, Carrie Coon, Finn Wolfhard, Mckenna Grace, Celeste O'Connor และ Logan Kim ที่กลับมารับบทเดิมจากเรื่อง Afterlife ร่วมกับ Bill Murray, Dan Aykroyd, Ernie Hudson, Annie Potts และ William Atherton ที่กลับมารับบทเดิมจากภาพยนตร์ ภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ Kumail Nanjiani, Patton Oswalt, Emily Alyn Lind และ James Acaster ก็ร่วมแสดงด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นสามปีหลังจากเหตุการณ์ Afterlife เหล่า Ghostbusters ผู้มากประสบการณ์จะต้องผนึกกำลังกับสมาชิกใหม่เพื่อช่วยโลกจากเทพเจ้าผู้หนาวเหน็บในนิวยอร์กซิตี้ที่พยายามสร้างกองทัพปีศาจ

หลังจากความสำเร็จของ Afterlife โซนี่ พิคเจอร์สได้ประกาศภาคต่อในเดือนเมษายน ปี 2022 โดยไรท์แมนกลับมาเป็นผู้กำกับ ผู้ร่วมเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างบริหาร คีแนน เข้ามารับตำแหน่งผู้กำกับในเวลาต่อมาในเดือนธันวาคมนั้น โดยไรท์แมนยังคงเป็นผู้เขียนบทและผู้อำนวยการสร้างร่วมต่อไป ในเดือนเดียวกันนั้นเอง Rudd, Coon, Grace, Wolfhard, O'Connor, Kim, Murray, Aykroyd, Hudson, Potts และ Atherton ต่างก็ได้รับการยืนยันให้กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง นักแสดงหน้าใหม่ซึ่งรวมถึงนันจิอานี, ออสวอลท์, ลินด์ และอะคาสเตอร์ ได้รับการประกาศในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 โดยจะเริ่มถ่ายภาพหลักในเดือนนั้นและปิดท้ายในเดือนมิถุนายน Dario Marianelli ได้รับการว่าจ้างให้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ แทนที่ Rob Simonsen นักแต่งเพลง Afterlife นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์ ​​Ghostbusters ที่จะออกฉายหลังจากการเสียชีวิตของผู้ร่วมสร้างแฟรนไชส์นี้และอีวาน ไรต์แมน พ่อของเจสัน ไรต์แมน ผู้ซึ่งเสียชีวิตด้วยเครดิตในฐานะผู้อำนวยการสร้างร่วมกับลูกชายของเขาและเจสัน บลูเมนเฟลด์ ภาพยนตร์เรื่องนี้อุทิศให้กับความทรงจำของไรท์แมนและเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของภาพยนตร์เรื่องแรก

Ghostbusters: Frozen Empire มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่โรงละคร AMC 13 ที่ Lincoln Square[ไม่ได้รับการยืนยันในตัว] ในนิวยอร์กซิตี้เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567 และเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม โดย Sony Pictures Releasing ภายใต้สังกัด Columbia ป้ายรูปภาพ. ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ แต่โดยทั่วไปแล้วได้รับการตอบรับเชิงบวกจากผู้ชม และทำรายได้ไปกว่า 200 ล้านเหรียญทั่วโลก ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับที่เก้าของปี 2024